วิธีเล่นเมจิกเบื้อต้น
============
เข้าใจก่อนว่าการ์ดมีทั้งหมดกี่ประเภท การ์ดmagic มีทั้งหมด6ประเภท หลักๆ ได้แก่
1.creature : คือmonsterในเกมการ์ดนี้
2.sorcery : คือการ์ดเวทย์ที่ใช้ในตาของเราเองเท่านั้นและใช้ก่อนที่จะทำอะไรทุกครั้ง เช่นสั่งตี ซึ่ง เมื่อใช้แล้วจะลงในสุสานเลย
3.instant : คือการ์ดเวทย์ที่ใช้ในตาของใครก็ได้ใช้แล้วลงสุสานเลยเหมือนกับsorcery
4.land : คือการ์ดที่ไว้ให้manaในการ์ดร่ายการ์ดต่างๆ ใน1ตาเราสามารถลงได้1ใบ
5.enchantment : คือการ์ดเวทย์ที่มีผลในสนามโดยที่จะอยู่ตลอดไม่ลงไปในสุสาน จนกว่าจะถูกทำลาย 6.artifact : คือการ์ดที่ถือว่าไม่มีสี และมึความสามารถแบบenchatment โดยนอกจากจะมี Artifact ธรรมดาแล้ว ยังมี Artifact ที่เป็น Creature และ Equipment ด้วย
ในส่วนของการ์ดlandจะแบบออกเป็น Basic Land และ Non Basic Land ซึ่ง Basic Land ก็คือ Land มาตราฐานที่มีให้ตั้งแต่การเล่นแบบ Starter นั่นเอง ส่วน Non Basic Land นั่นจะเป็น Land ที่อยู่นอกเหนือกฏพื้นฐาน นั่นหมายความว่า เป็น Land ที่มีความสามารถที่ต่าง หรือ เพิ่มขึ้นจาก Basic Land นั่นเอง
Basic Land จะมีทั้งหมด 5 แบบ คือ
1. Forest = ให้มานาเขียว สัญลักษณ์เป็นรูปต้นไม้
2. Mountain = ให้มานาแดง สัญลักษณ์เป็นรูปไฟ
3. Plains = ให้มานาขาว สัญลักษณ์เป็นรูปแสง ( หรือพระอาทิตย์ )
4. Island = ให้มานาฟ้า สัญลักษณ์เป็นรูปน้ำ
5. Swamp = ให้มานาดำ สัญลักษณ์เป็นกระโหลก
มานานั้นเป็นส่วนสำคัญของ Magic เพราะมีไว้เพื่อร่ายการ์ดต่างๆ โดยการจะดูว่าการ์ดแต่ละใบมีค่าร่ายเท่าไร ให้ดูที่มุมบนขวาของการ์ด เช่น การ์ดcreature ค่าร่ายเป็นรูปต้นไม้3อัน รูปวงกลมสีเทามีเลข4ข้างในแสดงว่าค่าร่าย7ครับ ซึ่งในวงกลมสีเทาเราเรียกว่า "ค่า Colorless" ครับ ซึ่งเราสามารถจ่ายมานาสีอะไรก็ได้ ตามจำนวนที่ระบุครับ ดังนั้น ในกรณีนี้ เราต้อง tap land forest 3ใบ และlandอะไรก็ได้อีก4ใบ ถึงจะร่ายได้ครับ
การtap คืออะไร การtapคือการตะแคงการ์ดให้อยู่ในแนวนอนครับ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราใช้ประโยชน์จากความสามารถ ของการ์ดแล้ว เช่น การ tap เพื่อเอามานา , การ tap เพื่อใช้ Ability และ การ tap เพื่อตี
Ability คืออะไร ก็คือ ความสามารถของ Creature , Non-Basic Land , Artifact , Enchantment ที่มีการระบุไว้ เช่น Creature ที่สามารถจ่ายค่าร่ายได้ , Non-Basic Land ที่ tap ยิงได้ , Artifact ที่จ่ายค่าร่ายแล้วเรียก artifact creature ลงมาทันที
ซึ่ง ความสามารถของ Ability เป็นความสามารถแบบ Instant ครับ ดังนั้นจึงสามารถใช้ตอนไหนก็ได้ ยกเว้นกรณีที่มีการระบุว่าใช้เป็น Sorcery จะสามารถใช้ได้เฉพาะใน turn เราเท่านั้นเท่านั้น
Ability คืออะไร ก็คือ ความสามารถของ Creature , Non-Basic Land , Artifact , Enchantment ที่มีการระบุไว้ เช่น Creature ที่สามารถจ่ายค่าร่ายได้ , Non-Basic Land ที่ tap ยิงได้ , Artifact ที่จ่ายค่าร่ายแล้วเรียก artifact creature ลงมาทันที
ซึ่ง ความสามารถของ Ability เป็นความสามารถแบบ Instant ครับ ดังนั้นจึงสามารถใช้ตอนไหนก็ได้ ยกเว้นกรณีที่มีการระบุว่าใช้เป็น Sorcery จะสามารถใช้ได้เฉพาะใน turn เราเท่านั้นเท่านั้น
- ก่อนจะเล่นก็ต้องมี Card ก็เริ่มจากการซื้อเริ่มซื้อ
1.แบบซอง Booster pack เป็นแบบชุดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เล่นเป็นแล้ว ราคาไม่แพงมาก มี Rare Card หายาก 1 ใบ,Uncommon 3 ใบ,Common 11 ใบ จากทั้งหมด 15 ใบ ที่ว่ามานั้นไม่รวมชุดเก่า ๆ นะครับ พวกนั้นดูได้จากหน้าซอง
2.แบบกล่อง Starter เป็นชุดสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น มี Rare 3 ใบส่วน Uncom,comไม่เหมือนกันในแต่ละชุด แต่จะดีสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นตรงที่ มี Land ให้สีละ 5-6 ใบ ส่วนราคานั้นพอ ๆ กับซื้อ Booster 3 ซอง3.แบบ
กล่อง Preconstructed เป็นชุดที่ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย Card ที่มีอยู่ในชุดแบบนี้ เราสามารถถามได้จากเจ้าของร้าน แบ่งเป็นสี ๆ ตามชอบใจ ราคาพอ ๆ กับ Strater
4.แบบเป็นใบ ๆ สำหรับท่านที่ต้องการ คงต้องหาแลก หรือซื้อจากผู้ที่เล่นเป็นแล้วคนอื่น ๆ ราคานั้นก็ตาม Rate นะครับแต่บางใบก็แพงเป็นพัน ๆ เลย
1.แบบซอง Booster pack เป็นแบบชุดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เล่นเป็นแล้ว ราคาไม่แพงมาก มี Rare Card หายาก 1 ใบ,Uncommon 3 ใบ,Common 11 ใบ จากทั้งหมด 15 ใบ ที่ว่ามานั้นไม่รวมชุดเก่า ๆ นะครับ พวกนั้นดูได้จากหน้าซอง
2.แบบกล่อง Starter เป็นชุดสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น มี Rare 3 ใบส่วน Uncom,comไม่เหมือนกันในแต่ละชุด แต่จะดีสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นตรงที่ มี Land ให้สีละ 5-6 ใบ ส่วนราคานั้นพอ ๆ กับซื้อ Booster 3 ซอง3.แบบ
กล่อง Preconstructed เป็นชุดที่ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย Card ที่มีอยู่ในชุดแบบนี้ เราสามารถถามได้จากเจ้าของร้าน แบ่งเป็นสี ๆ ตามชอบใจ ราคาพอ ๆ กับ Strater
4.แบบเป็นใบ ๆ สำหรับท่านที่ต้องการ คงต้องหาแลก หรือซื้อจากผู้ที่เล่นเป็นแล้วคนอื่น ๆ ราคานั้นก็ตาม Rate นะครับแต่บางใบก็แพงเป็นพัน ๆ เลย
การเล่นและการจัดเด็ค
===============
ในเด็คจะต้องมีการ์ดไม่ต่ำกว่า 60 ใบ และมีการ์ดชื่อเดียวกันได้ไม่เกิน 4 ใบ ยกเว้นการ์ดที่ระบุให้มีได้ใบเดียว เช่น Global Enchanment( การ์ดรุ่นเก่าครับ )เป็นต้น
- พอมี Deck แล้วก็เริ่มเล่นก่อนปะทะหน้ากัน
1.เริ่มต้นที่มี พลังคนละ 20 แต้ม ใครเหลือ 0 ก่อน คนนั้นแพ้ไป
2.ทำการตัดกอง Card ของคู่ต่อสู้คนละ 1 ครั้ง
3.โยนหัวก้อยว่าใครจะได้เล่นก่อนแต่ไม่ได้จั่ว คนที่เล่นหลังจะได้จั่วก่อน
4.พร้อมแล้ว...เตรียมตัว...Go!!
การเลือกว่าผู้เล่นคนใดเริ่มก่อนนั้น ตามกฏของ DCI จะเป็นการทอยเหรียญเพื่อเลือกเล่นครับ แต่ตามกฏการเล่นกันเอง ใช้วิธีเปิดกองเพื่อดูค่าร่ายครับ ใครมากกว่าก็ได้เริ่มก่อน
ก่อนจะเริ่มเล่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ในการเล่นแต่ละ turn นั้น จะมีการแบ่งย่อยออกเป็น 3 Pharse ใหญ่ คือ
1. Main Pharse
2. Combat Pharse
3. Post Combat Pharse
ซึ่งในแต่ละ Pharse นั้น ถ้าผู้เล่นคนใดใช้ mana ไม่หมด แล้วข้ามไปอีก Pharse จะเกิด Mana Burn ทันที ( 1 mana จะ Burn 1 life Point )
และในแต่ละ Pharse นั้น ก็จะมีการแยกย่อยออกอีก เป็น Step ดังนี้
1. Upkeep and Untap Step ( ช่วงเริ่มเกมส์น่ะครับ ต้อง untap การ์ดกลับทุกใบ )
2. Draw Step ( ช่วงสำหรับจั่วน่ะครับ )
3. Main Pharse Step ( ช่วง main pharse น่ะครับ มีมานาเท่าไหน อยากร่ายอะไร ก็เต็มที่ )
4. After Main Pharse Step ( ช่วงหลังจากทำอะไรเรียบร้อยแล้วเตรียมเข้า combat
5. Combat Pharse Step ( เข้าสู่ช่วงทุบกันแล้วครับ )
6. After Combat Pharse Step ( หลังจากเลือกตัวทุบกันเรียบร้อยและ damage resolve แล้ว )
7. Post Combat Pharse Step ( ช่วงนี้จะเหมือน Main Pharse ครับ จะร่ายอะไรก็ร่ายครับ ถ้ายังไม่ลงแลนด์ก็ลง )
8. Clean Up Step ( ช่วงที่เช็คว่ามีมานาเหลือหรือไม่ และเช็คว่าการ์ดในมือเกิน 7 ใบหรือเปล่า ถ้าเกินก็ ค่อยมาทิ้งช่วงนี้ครับ )
===============
ในเด็คจะต้องมีการ์ดไม่ต่ำกว่า 60 ใบ และมีการ์ดชื่อเดียวกันได้ไม่เกิน 4 ใบ ยกเว้นการ์ดที่ระบุให้มีได้ใบเดียว เช่น Global Enchanment( การ์ดรุ่นเก่าครับ )เป็นต้น
- พอมี Deck แล้วก็เริ่มเล่นก่อนปะทะหน้ากัน
1.เริ่มต้นที่มี พลังคนละ 20 แต้ม ใครเหลือ 0 ก่อน คนนั้นแพ้ไป
2.ทำการตัดกอง Card ของคู่ต่อสู้คนละ 1 ครั้ง
3.โยนหัวก้อยว่าใครจะได้เล่นก่อนแต่ไม่ได้จั่ว คนที่เล่นหลังจะได้จั่วก่อน
4.พร้อมแล้ว...เตรียมตัว...Go!!
การเลือกว่าผู้เล่นคนใดเริ่มก่อนนั้น ตามกฏของ DCI จะเป็นการทอยเหรียญเพื่อเลือกเล่นครับ แต่ตามกฏการเล่นกันเอง ใช้วิธีเปิดกองเพื่อดูค่าร่ายครับ ใครมากกว่าก็ได้เริ่มก่อน
ก่อนจะเริ่มเล่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ในการเล่นแต่ละ turn นั้น จะมีการแบ่งย่อยออกเป็น 3 Pharse ใหญ่ คือ
1. Main Pharse
2. Combat Pharse
3. Post Combat Pharse
ซึ่งในแต่ละ Pharse นั้น ถ้าผู้เล่นคนใดใช้ mana ไม่หมด แล้วข้ามไปอีก Pharse จะเกิด Mana Burn ทันที ( 1 mana จะ Burn 1 life Point )
และในแต่ละ Pharse นั้น ก็จะมีการแยกย่อยออกอีก เป็น Step ดังนี้
1. Upkeep and Untap Step ( ช่วงเริ่มเกมส์น่ะครับ ต้อง untap การ์ดกลับทุกใบ )
2. Draw Step ( ช่วงสำหรับจั่วน่ะครับ )
3. Main Pharse Step ( ช่วง main pharse น่ะครับ มีมานาเท่าไหน อยากร่ายอะไร ก็เต็มที่ )
4. After Main Pharse Step ( ช่วงหลังจากทำอะไรเรียบร้อยแล้วเตรียมเข้า combat
5. Combat Pharse Step ( เข้าสู่ช่วงทุบกันแล้วครับ )
6. After Combat Pharse Step ( หลังจากเลือกตัวทุบกันเรียบร้อยและ damage resolve แล้ว )
7. Post Combat Pharse Step ( ช่วงนี้จะเหมือน Main Pharse ครับ จะร่ายอะไรก็ร่ายครับ ถ้ายังไม่ลงแลนด์ก็ลง )
8. Clean Up Step ( ช่วงที่เช็คว่ามีมานาเหลือหรือไม่ และเช็คว่าการ์ดในมือเกิน 7 ใบหรือเปล่า ถ้าเกินก็ ค่อยมาทิ้งช่วงนี้ครับ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น